เริ่มออมตั้งแต่วัยเรียน สร้างอนาคตที่มั่นคงได้ตั้งแต่วันนี้ หลายคนอาจคิดว่า “เป็นนักเรียน จะออมเงินได้ยังไง เงินค่าขนมยังไม่พอเลย” แต่ความจริงแล้ว การออมเงินไม่จำเป็นต้องเริ่มจากจำนวนมาก สิ่งสำคัญคือ “เริ่มต้น” และ “ทำต่อเนื่อง”
การฝึกออมตั้งแต่วัยเรียนไม่เพียงช่วยให้มีเงินเก็บไว้ใช้ในยามจำเป็น แต่ยังช่วยปลูกฝัง “นิสัยทางการเงินที่ดี” ซึ่งจะติดตัวไปจนโตเป็นผู้ใหญ่ และนี่คือ 10 วิธีออมเงินของนักเรียน ที่เริ่มทำได้ตั้งแต่วันนี้ ไม่ต้องรอให้เรียนจบก่อน
1. หยอดกระปุกทุกวัน แม้จะเป็นเงินเหรียญก็สำคัญ
การหยอดกระปุกคือวิธีคลาสสิกที่ได้ผลเสมอ ไม่ต้องเริ่มจากจำนวนมาก แค่วันละ 10–20 บาท ก็สามารถกลายเป็นเงินก้อนในไม่กี่เดือน เคล็ดลับคือให้เลือก “กระปุกที่มองไม่เห็นข้างใน” เพราะจะทำให้ไม่อยากเปิดก่อนเวลา หากอยากเพิ่มความสนุก ลองตั้งเป้าหมาย เช่น “กระปุกนี้ไว้ซื้อของขวัญวันเกิดให้ตัวเอง” จะช่วยสร้างแรงจูงใจในการออมได้ดีขึ้น
2. แบ่งเงินค่าขนมเป็น 3 ส่วนเสมอ
ทุกครั้งที่ได้รับเงินค่าขนมหรือเงินเดือนจากพ่อแม่ ให้แบ่งทันทีเป็น 3 ส่วนคือ
- เงินใช้จ่ายประจำวัน
- เงินเก็บ
- เงินเผื่อฉุกเฉินหรือทำบุญ
วิธีนี้ช่วยฝึกวินัยและการจัดสรรเงินตั้งแต่ยังเรียนอยู่ แม้จะแบ่งเก็บเพียง 10–20% ของค่าขนม ก็ยังดีกว่าไม่เก็บเลย
3. พกเงินสดเท่าที่จำเป็นในแต่ละวัน
การพกเงินเยอะมักทำให้เผลอใช้เยอะ ลองคำนวณค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวัน แล้วพกเงินแค่พอดี เช่น วันละ 100–150 บาท ถ้าเหลือเมื่อกลับบ้าน ค่อยหยอดกระปุกหรือเก็บไว้ในบัญชี วิธีนี้ช่วยให้เห็นภาพรายจ่ายชัดขึ้น และลดพฤติกรรมใช้จ่ายเกินตัวโดยไม่รู้ตัว
4. ใช้สมุดจดรายรับ–รายจ่ายประจำวัน
อาจฟังดูยุ่ง แต่เป็นวิธีที่ช่วยได้มาก แค่จดว่า “วันนี้ใช้เงินไปกับอะไรบ้าง” เช่น อาหารกลางวัน 50 บาท เครื่องดื่ม 30 บาท เมื่อเห็นตัวเลขรวมปลายเดือน จะรู้เลยว่าเราใช้เงินไปกับอะไรเกินจำเป็น การรู้พฤติกรรมการใช้เงินของตัวเอง คือจุดเริ่มต้นของการออมอย่างแท้จริง
5. งดซื้อของตามกระแส ถามตัวเองก่อนว่า “จำเป็นไหม”
วัยเรียนมักถูกชักจูงให้ซื้อของตามเทรนด์ เช่น เสื้อผ้าใหม่ มือถือรุ่นล่าสุด หรือของสะสม ก่อนซื้อทุกครั้ง ให้ถามตัวเองว่า “ถ้าไม่ซื้อวันนี้ จะเดือดร้อนไหม?” ถ้าคำตอบคือ “ไม่” ให้พักไว้ก่อน แล้วเอาเงินส่วนนั้นไปเก็บแทน การรู้จัก “แยกของอยาก กับของจำเป็น” คือพื้นฐานของคนที่เก็บเงินได้จริง
6. ใช้สิทธิ์นักเรียนให้คุ้ม
นักเรียนหลายคนอาจไม่รู้ว่า “บัตรนักเรียน” มีส่วนลดมากมาย เช่น ลดราคาค่าเดินทาง ร้านหนังสือ โรงหนัง หรือคาเฟ่บางแห่ง ลองใช้สิทธิ์เหล่านี้อย่างชาญฉลาด จะช่วยประหยัดเงินได้เดือนละหลายร้อยบาท และเงินที่ประหยัดได้จากส่วนลดเหล่านี้ ก็คือเงินออมที่เพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องพยายามมาก
7. หาอาชีพเสริมเล็ก ๆ ทำระหว่างเรียน
ยุคนี้โอกาสมีอยู่ทุกที่ นักเรียนสามารถหารายได้เสริมจากสิ่งที่ชอบ เช่น รับสอนพิเศษ วาดรูปขาย ทำสติ๊กเกอร์ไลน์ เขียนบทความหรือรีวิวสินค้า รายได้เสริมเพียงสัปดาห์ละไม่กี่ร้อย ก็ช่วยเพิ่มพลังให้บัญชีเงินออมของเราได้แล้ว
8. ใช้แอปออมเงินหรือบัญชีฝากดอกเบี้ยสูง
ตอนนี้มีแอปหลายตัวที่ออกแบบมาสำหรับคนเริ่มออม เช่น Kept, SCB Easy, Krungthai NEXT, TMRW, TrueMoney Wallet บางแอปสามารถตั้งระบบออมอัตโนมัติทุกครั้งที่ได้รับเงิน หรือปัดเศษเข้ากระปุกดิจิทัลเลือกบัญชีที่ให้ดอกเบี้ยสูง จะช่วยให้เงินงอกเงยโดยไม่ต้องทำอะไรเลย

9. ตั้งเป้าหมายออมระยะสั้น
การตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ช่วยให้การออมมีความสนุก เช่น เก็บเงิน 500 บาทภายใน 1 เดือน เพื่อซื้อของที่อยากได้ หรือเก็บวันละ 20 บาท เพื่อไปทัศนศึกษา เมื่อบรรลุเป้าหมายเล็ก ๆ แล้ว ค่อยขยับไปสู่เป้าหมายใหญ่ เช่น เก็บเงินก้อน 3,000–5,000 บาท วิธีนี้จะทำให้รู้สึกภูมิใจและมีแรงสู้ต่อเนื่อง
10. ใช้เงินอย่างรู้คุณค่า
ท้ายที่สุด การออมที่ดีที่สุดไม่ใช่การ “เก็บทุกบาท” แต่คือการ “ใช้ทุกบาทอย่างมีความหมาย” ก่อนใช้เงิน ลองคิดว่า “สิ่งนี้จะให้ประโยชน์กับเรานานแค่ไหน?” ถ้าเป็นของที่ช่วยพัฒนาตัวเอง เช่น หนังสือดี ๆ หรือคอร์สเรียนเสริม ก็ถือเป็นการลงทุนในอนาคต แต่ถ้าเป็นของที่ซื้อเพราะตามกระแส ลองเก็บไว้ใช้จ่ายในสิ่งสำคัญกว่านี้ดีกว่า
ออมวันนี้ มีอนาคตที่มั่นคงกว่าแน่นอน การออมเงินไม่ใช่เรื่องของจำนวนเงิน แต่คือ “นิสัยและความตั้งใจ”แม้จะเป็นนักเรียนที่มีรายได้น้อย ก็สามารถเริ่มออมได้ตั้งแต่วันนี้ เริ่มจากวันละ 10 บาท หยอดกระปุก เก็บค่าขนม หรือใช้แอปช่วยออม เพราะการออมไม่ใช่เรื่องของคนทำงานเท่านั้น แต่เป็น “ทักษะชีวิต” ที่ทุกคนควรเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อให้อนาคตมั่นคงขึ้นทุกวัน








